วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

ก. เอ๋ย ก. การศึกษาไทย

ตั้งแต่เรียนมารู้สึกว่าการศึกษาไทยขาดสิ่งที่สำคัญมากที่สุดไป
คือการให้ความสำคัญกับตัวตนของผู้เรียน ทั้งความคิด ความชอบ

การศึกษาไทยไม่เคยเปิดโอกาสจริงๆให้ผู้เรียน
ได้ลองทำความรู้จักตัวเองและสิ่งที่กำลังจะเลือก ก่อนที่จะเลือก

บางคนเรียนหนักจนไม่เคยได้คิดถึงตัวเองว่าชอบอะไร
ประกอบกับสังคมที่ตีกรอบ ทั้งครูอาจารย์ ผู้ปกครอง
ไม่เคยมีใครสนใจตัวผู้เรียนว่าคิดอะไร ชอบอะไร
แล้วในวัยที่ยังคิดเองได้ไม่เท่าไหร่ แถมไม่มีคนแนะแนวทาง
ก็เป็นธรรมดาที่ผู้เรียนจะตามกระแสเพื่อนรอบข้าง ตามโชคชะตา ตามน้ำ ฯลฯ
(ใครที่ตัวตนแข็งแรงหน่อย โชคดีได้พบตัวเองเร็วหน่อยก็รอดไป, ซึ่งเป็นส่วนน้อย)

ความชอบ-ไม่ชอบ มันมีอิทธิพลต่อชีวิตมาก,
ถ้าไม่ชอบเราก็อยู่กับมันโดยต้องทน
แต่ถ้าชอบ ต่อให้เป็นงานก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ทำงาน

บางคนก็โชคดีที่พบตัวเองแล้วได้อยู่กับสิ่งที่ชอบ
บางคนก็มโนว่าตัวเองจะชอบอย่างนั้น
บางคนกำลังอดทนบนความไม่ชอบ
บางคนไม่เคยค้นหาตัวเอง ,
นี่แหละคือปัญหา

การศึกษาที่ดีคือการนำทางให้เราพบตัวเอง

อย่างในต่างประเทศที่บางคนเรียกว่าเจริญแล้วจะสังเกตได้ว่าชั่วโมงเรียนเค้าน้อยกว่าเราเยอะ กิจกรรมและชมรมเค้าทำกันแต่เด็ก ในห้องเรียนไม่เน้นการท่องจำ มีแต่การให้ความคิดและแสดงความเห็น ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะลองทำสิ่งต่างๆ สามารถเลือกลงเรียนคลาสเรียนที่ตัวเองสนใจได้

แล้วจากการได้ลองเค้าก็จะเลือกได้ว่าอะไรที่เหมาะสมกับตัวเอง 

คนเราถ้าให้ตัดสินใจเลือกอะไรสักอย่าง เราก็ต้องรู้จักตัวเลือกก่อนจริงไหม?

ปล. ฉันนี่แหละผลลัพธ์จากการศึกษาไทย
ปล.2 อย่าไล่ฉันให้ไปอยู่ประเทศอื่นนะ แต่ถ้าออกค่าใช้จ่ายให้ก็ยินดี
ปล.3 ความคิดเห็นส่วนตัว หัว ตูด ด่าได้

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

ไม่เอาเขื่อน

คุณๆ เรื่องชนชั้นน่ะมันล้าหลังแล้วนะ 
อาชีพกับชนชั้นมันคนละเรื่อง, ชาวบ้านมีจนมีรวยธรรมดา,

ยกเว้นแต่คุณจะใช้คำว่า "รากหญ้า" ในนิยามของรัฐบาลบางรัฐบาล

คนมีการศึกษาหรือไม่มี เค้าก็รู้คุณค่าของธรรมชาติได้โรงเรียนมันก็ไม่ได้สอนสักเท่าไหร่หรอก

ไม่ชอบคำว่า "ชนชั้น" อย่างมากเพราะคนที่พูดคือคนที่ "ให้ค่า" ความเป็น "มนุษย์"ไม่เท่ากัน,

เราทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงไม่ว่าจะจนรวย จะอยู่ในหรือนอกพื้นที่ก็ตาม เพราะธรรมชาติเป็นของทุกคน

คนในพื้นที่อาจเดือดร้อนกว่าก็จริง แต่ถ้าสร้างแล้วไม่คุ้ม แก้ปัญหาไม่ได้ ,คุณเอาป่าคืนมาได้ไหม?

คนดังมีเสียงที่ดังกว่า ก็จริง, แต่ไม่ว่าดังแค่ไหนเสียงของเค้าก็เป็นเสียงเดียวเมื่อคุณนับ

ความคิดมันเป็นของคุณ เพราะฉะนั้นอย่าเอาไปผูกติดกับอะไรนอกจากเหตุผล

............................
เป็นเรื่องจริงที่คนบางคนยังคงใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ธรรมชาติแม้จะออกมาคัดค้านเขื่อน

เรียกว่าฉาบฉวยก็ว่าได้

ลองคิดดูว่าแต่ละวันเราช่วยอะไรโลกได้บ้าง อะไรลดได้ อะไรเลิกได้ อะไรที่ทำได้ทำ

จะได้พูดได้เต็มปากว่า "รักธรรมชาติ"

จาก facebook ต่อบทความที่กล่าวว่าการคัดค้านเขื่อนแม่วงก์เป็นกระแสของชนชั้นกลาง ชนชั้นรากหญ้าไม่เห็นด้วย.

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ขณะนี้

รอยยิ้ม
อารมณ์
เคมี
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
รู้แต่ว่ามันพิเศษ
อย่างน้อยก็ในขณะนี้

ฉันแปลกใจ,
ยังมีอยู่อีกหรือ?
คนที่พิเศษโดยไม่ต้องพยายาม
เข้ามาในหัวใจโดยไม่เคลือบแคลง
แม้ยังไม่ทันรู้จัก
แต่กลับชัดเจน


อย่างน้อยในขณะนี้.





วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

จดหมายถึงดวงจันทร์

อาจเป็นเพียงอารมณ์  อาจเป็นความรู้สึก อาจจะเป็นสมอง หรือบางทีอาจจะเป็นหัวใจ ที่ทำให้ฉันทำในสิ่งที่ฉันทำ... สบายใจแต่เศร้าใจ สับสนแต่ก็สงบนิ่ง ยินดีแต่ก็เีสียใจ... อย่างน้อยฉันก็เลิกเห็นแก่ตัวสักที นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เธอได้ ....

สุดท้ายฉันมั่นใจว่ารัก แต่เป็นรักในแบบที่ไม่เหมือนกับที่เธอนิยาม.


คิดถึง

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

บางทีอากาศก็สดใสเกินกว่าจะทำงาน

บางทีอากาศก็เศร้าเกินกว่าจะยิ้ม

บางทีอากาศก็ทำให้คิดถึงบรรยากาศ

บางทีอากาศก็ทำให้คิดถึงใคร